Part 2 : ครั้งแรกในชีวิตกับการลงทุนในหุ้น

         หลังจากศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นโดยการอ่านหนังสือคัมภีร์หุ้นห่านทองคำ(ของคุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์) ที่ลงทุนซื้อมาจาก Se-ed ที่เลือกเล่มนี้เพราะคิดว่ามันเหมาะกับคนที่ต้องทำงานประจำและอยากลงทุนระยะยาว หลังจากอ่านจบจึงดำเนินการเปิดพอร์ตการลงทุนกับ Maybank KimEng และ KBank (เปิดไว้สองที่เลยเพื่อต้องการรับข้อมูลข่าวสารสองด้าน) และแล้วทุกอย่างก็พร้อมสำหรับการลงทุนครั้งแรก หลังจากนั้นก็เลือกหุ้นตามภาษาแมงเม่าโดยเน้นหุ้นที่มีความมั่นคงอย่างพลังงาน มาแนว VI ล้วนๆเลย นั่งดูหุ้น5-6วันมันก็ขึ้นดี (เขียวกันทุกตัวเลย) และหลังจากนั้นก็ปล่อยมันทิ้งไว้โดยหวังว่ามันจะขึ้นไปเรื่อยๆเอง ดังตารางข้างล่าง

วันที่	บลจ	จำนวนหุ้น	ราคาต่อหุ้น	ค่าธรรมเนียมซื้อขาย	ต้นทุน
26/7/2554	xOx	71	78.5	50	5623.5
13/7/2554	xNx	300	17.3	50	5240
15/8/2554	xxPx	1349	5.11	50	6943.39
15/8/2554	xTx	40	326	50	13090
					30896.89

และหลังจากนั้นไม่นานนักมันก็ตกลงมาเลื่อยๆ จนเราต้องติดดอยมาจนถึงทุกวันนี้เลยที่เดียว ติดลบ 19.1%

วันที่	บลจ	จำนวนหุ้น	ราคาต่อหุ้น	ค่าธรรมเนียมซื้อขาย	ต้นทุน	ราคาหุ้นปัจจุบัน(เดือนตุลาคม2554)	กำไรขาดทุน
26/7/2554	xOx	71	78.5	50	5623.5	55.75	-1665.25
13/7/2554	xNx	300	17.3	50	5240	13.6	-1160
15/8/2554	xxPx	1349	5.11	50	6943.39	3.82	-1790.21
15/8/2554	xTx	40	326	50	13090	295	-1290
					30896.89		-5905.46
							-19.1%

         จึงกลับมานั่งทบทวนในสิ่งที่ทำลงไป จึงพบว่าเราขาดการบริหารพอร์ตทีดี ขาดความรู้ทางด้านจังหวะการซื้อขาย ผมจึงได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่ขาดไป และทำให้ตอนนี้ทำให้ผมมีกำไร 1.8% (7/12/11) และ let profit run อยู่ ซึ่งจะนำมาเล่าสู่กันฟังว่าได้ความรู้อะไรมาบ้างในบทต่อไปนะครับ


                                                                                                                                                        

Pelepae

Part 1 : ทำไมถึงเลือกลงทุนในหุ้น

         ท่ามกลางมหาภัยพิบัตน้ำท่วมที่ใหญ่ที่สุด ที่ประเทศไทยไม่เคยพบเจอมาก่อน ประชาชนเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ต้องอพยพออกจากบ้าน 2-3เดือน (รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย) นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งกลายเป็นนิคมเมืองบาดาล คนต้องตกงาน จีดีพีลดเหลือ 2.4% จาก 3.6% และทุกสิ่งต้องได้รับการฟื้นฟูและแผนป้องกันน้ำสำหรับปีหน้าที่กำลังใกล้เข้ามาแล้ว..ขอบรรยายสถานการณ์ปัจจุบันก่อนเริ่มนะครับ

  

         ทำไม่เราไม่เลือกที่จะ ฝากเงินไว้ในธนาคาร ปล่อยเงินกู้ เปิดทำธุระกิจส่วนตัว ซื้อบ้านหรือที่ดินเพื่อเอาไว้เก็งกำไรล่ะ ก็เพราะว่าการฝากเงินไว้ที่ธนาคารมันได้ดอกเบี้ยน้อยเกินไป เผลอๆน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ และก็ต้องทำงานประจำทุกจันทร์ถึงศุกร์ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลามากนักที่จะไปทำธุระกิจส่วนตัวในเวลานี้และอีกอย่าง เราทำงานหาเงินมา ถึงเวลาที่จะใช้เงินออกไปทำงานหาเงินบ้างแล้ว โดยเป็นหุ้นส่วนกับธรุกิจระดับพันล้านหมื่นล้านไปเลย

ขั้นตอนการสร้างเงินจากการลงทุนในหุ้น

  

         สิ่งที่เราต้องทำก็แค่เลือกบริษัทที่มีผลประกอบการดี จ่ายปันผลงามๆทุกปี ราคาหุ้นขึ้นแบบต่อเนื่อง แค่นี้เราก็นั่งรอนับเงินปันผลแล้วขายทำกำไรสำหรับผลต่างของราคาหุ้น "พูดเหมือนง่ายแต่ทำยาก แต่คงไม่เกินความสามารถถ้าเราตั้งใจที่จะศึกษาอย่างจริงจัง".

.........การลงทุนที่เหนื่อยทางกายน้อยที่สุดคือการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ก่อนเริ่มลงทุนควรศึกษาทั้งทางด้านพื้นฐาน (Fundamental) และทางเทคนิค (Technical) ให้พอมีพื้นฐานบ้าง แล้วหมั่นติดตามข่าวสารอย่างสมํ่าเสมอ หลังจากนั้นทดลองลงสนามจริงด้วยเงินจริงซักก้อนเล็กๆ (เอาแบบว่าถ้าเสียก็ไม่เสียดาย ถือเป็นค่าประสบการณ์) แล้วเราจะเข้าใจตลาดมากขึ้นแล้วค่อยหมั่นฝึกฝนและพัฒนาไปเื่รื่อยๆ.........

วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ ที่ต้องไม่ให้เกิดซ้ำในปีหน้า
มิชะนั้นประเทศคงต้องตกอยู่ในความลำบากแน่ๆ

Remark : บทความที่เขียนข้างต้นมาจากช่วงประสบการณ์ในการลงทุนมาประมาณ 6 เดือนเท่านั้น

ซึ่งผู้เขียนเองเป็นเพียงผู้เริ่มต้น ยังมิได้ประสบความสำเร็จในการลงทุน (แต่ยังไม่ขาดทุนนะ)

Pelepae