วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Part 1 : ทำไมถึงเลือกลงทุนในหุ้น

         ท่ามกลางมหาภัยพิบัตน้ำท่วมที่ใหญ่ที่สุด ที่ประเทศไทยไม่เคยพบเจอมาก่อน ประชาชนเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ต้องอพยพออกจากบ้าน 2-3เดือน (รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย) นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งกลายเป็นนิคมเมืองบาดาล คนต้องตกงาน จีดีพีลดเหลือ 2.4% จาก 3.6% และทุกสิ่งต้องได้รับการฟื้นฟูและแผนป้องกันน้ำสำหรับปีหน้าที่กำลังใกล้เข้ามาแล้ว..ขอบรรยายสถานการณ์ปัจจุบันก่อนเริ่มนะครับ
  
         ทำไม่เราไม่เลือกที่จะ ฝากเงินไว้ในธนาคาร ปล่อยเงินกู้ เปิดทำธุระกิจส่วนตัว ซื้อบ้านหรือที่ดินเพื่อเอาไว้เก็งกำไรล่ะ ก็เพราะว่าการฝากเงินไว้ที่ธนาคารมันได้ดอกเบี้ยน้อยเกินไป เผลอๆน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ และก็ต้องทำงานประจำทุกจันทร์ถึงศุกร์ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลามากนักที่จะไปทำธุระกิจส่วนตัวในเวลานี้และอีกอย่าง เราทำงานหาเงินมา ถึงเวลาที่จะใช้เงินออกไปทำงานหาเงินบ้างแล้ว โดยเป็นหุ้นส่วนกับธรุกิจระดับพันล้านหมื่นล้านไปเลย


ขั้นตอนการสร้างเงินจากการลงทุนในหุ้น

  
         สิ่งที่เราต้องทำก็แค่เลือกบริษัทที่มีผลประกอบการดี จ่ายปันผลงามๆทุกปี ราคาหุ้นขึ้นแบบต่อเนื่อง แค่นี้เราก็นั่งรอนับเงินปันผลแล้วขายทำกำไรสำหรับผลต่างของราคาหุ้น "พูดเหมือนง่ายแต่ทำยาก แต่คงไม่เกินความสามารถถ้าเราตั้งใจที่จะศึกษาอย่างจริงจัง".

.........การลงทุนที่เหนื่อยทางกายน้อยที่สุดคือการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ก่อนเริ่มลงทุนควรศึกษาทั้งทางด้านพื้นฐาน (Fundamental) และทางเทคนิค (Technical) ให้พอมีพื้นฐานบ้าง แล้วหมั่นติดตามข่าวสารอย่างสมํ่าเสมอ หลังจากนั้นทดลองลงสนามจริงด้วยเงินจริงซักก้อนเล็กๆ (เอาแบบว่าถ้าเสียก็ไม่เสียดาย ถือเป็นค่าประสบการณ์) แล้วเราจะเข้าใจตลาดมากขึ้นแล้วค่อยหมั่นฝึกฝนและพัฒนาไปเื่รื่อยๆ.........


วิกฤตน้ำท่วมใหญ่ ที่ต้องไม่ให้เกิดซ้ำในปีหน้า
มิชะนั้นประเทศคงต้องตกอยู่ในความลำบากแน่ๆ

Remark : บทความที่เขียนข้างต้นมาจากช่วงประสบการณ์ในการลงทุนมาประมาณ 6 เดือนเท่านั้น
ซึ่งผู้เขียนเองเป็นเพียงผู้เริ่มต้น ยังมิได้ประสบความสำเร็จในการลงทุน (แต่ยังไม่ขาดทุนนะ)

Pelepae