ฟังชื่อแล้วหมือนกำลังค้นหาสุดยอดเคล็ดวิชาจากเดชคำภีร์เทวดายังไงชอบกล
ก็เพราะเรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ หลังจากครังที่แล้วที่ได้บอกว่าตอนนี้พอร์ตเป็นบวก
1.8%โดยการปรับแต่งพอร์ต (ตัดแต่งกิ่งไม้) ดังแสดงในตารางข้างล่าง
วันที่ |
บลจ |
จำนวนหุ้น |
ราคาต่อหุ้น |
ค่าธรรมเนียมซื้อขาย |
ต้นทุน |
ราคาหุ้นปัจจุบัน(เดือนธันวาคม2554) |
กำไรขาดทุน |
26/7/2554 |
xOx |
71 |
78.5 |
50 |
5623.5 |
65 |
-1008.5 |
13/7/2554 |
xxAx |
800 |
25.05 |
50 |
20090 |
27.75 |
2110 |
25/11/2554 |
xxPx |
1349 |
5.11 |
50 |
6943.4 |
4.5 |
-872.89 |
25/11/2554 |
xKxxx |
96 |
115.5 |
50 |
11138 |
122 |
574 |
|
|
|
|
|
43795 |
|
802.61 |
|
|
|
|
|
|
|
1.8% |
โอ้พอร์ตเป็นสีเขียวเห็นกำไรแล้ว
สุดแสนจะดีใจ หลังจากนั้นจึงขายทำกำไรยกแผง ทั้ง xxAx
และ xKxxx จากนั้นนำเงินที่ได้ไปซื้อหุ้น rebound
(xMx) จากปัญหาน้ำท่วมซึ่งเป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ MACD ตัด 0, %K ตัด %D น่าลงทุนมากๆ
ซื้อได้เพียง 2 วัน ก็มีบทวิเคราะห์ออกมาในแง่ลบมากๆ ทำให้ราคาตกทันที่ -10%
เลยต้อง cut loss
สรุปก็คือตอนนี้ผมมีหลักการลงทุนอย่างไรกันแน่
(งงกับตัวเองอยู่เหมือนกัน)
พื้นฐานหรือเทคนิค เพราะซื้อ xKxxx และ xxAx
โดยดูพื้นฐานและผลการดำเนินการปัจจุบัน แต่xMx ซื้อโดยเทคนิคล้วนๆ
หลังจากนั่งคิดพิเคราะห์อยู่พักใหญ่
ก็คิดว่าการลงทุนที่น่าจะเหมาะกับตัวเอง คือ เทคนิค 80% + พื้นฐาน
20% หมายความว่า
1.
เทคนิค 80%
a.
เป็นหุ้นที่มี Volume การซื้อขาย
b.
MACD
ตัด 0 หรือใกล้ตัด 0 หรือตัด Signal ขึ้น
c.
%K
ตัด %D
d.
ตั้งจุด cut loss ไว้เสมอและขายทำกำไรเมื่อ
ข้อ b,c ตรงกันข้าม
2. พื้นฐาน 20%
a.
พื้นฐานดี ไม่จำเป็นต้องจ่ายปันผลก็ได้
เหตุผลที่ใช้หลักการลงทุนแบบนี้ในต้อนนี้
ก็เพราะว่ามีเงินทุนต่ำ ถ้ามารอปันผลหรือคอยทยอยเก็บเมื่อหุ้นตกก็ไม่ไหว
ไม่รู้เมื่อไหร่จะรวยแต่ไม่ได้บอกว่าหลักการลงทุนแบบที่ผมเลือกนี้จะรวยนะ
เดี๋ยวต้องลองดูก่อนครับ
Pelepae